สนาม: สุทธิทางเศรษฐกิจของประชาชน
บทนำ:30มค61- นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพลอประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธไม่เกี่ยวกับการขยายเวลาบังคับใช้ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พรป)ว่าการเลือกตั้งสมาชิภสภาผู้แทนราษฎร(สส) ออกไป 90 วัน จนทำให้โรดแมปการเลือกตั้งเลื่อน ว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากข้ออ้างที่ทำให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช)ขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายเลือกตั้งสส นั้น เป็นเพราะนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช) ยังไม่ยอมปลดล็อคประกาศคสช และคำสั่งหัวหน้าคสช ที่ 53/2560 จนทำให้การทำตาม พรปว่าด้วยพรรคการเมืองต้องเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น นายกรัฐมนตรีระบุว่าตนเองบังคับกฎหมายไม่ได้นั้น จึงไม่เป็นความจริง และเท่ากับว่านายกรัฐมนตรีใช้อำนาจหัวหน้าคสชแทรกแซงการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งยังเป็นการบังคับกฎหมายพรรคการเมืองให้เป็นไปตามที่ต้องการ นายองอาจกล่าวว่า ถ้านายกรัฐมนตรีปล่อยให้ทุกอย่างเดินหน้าไปตามกฎหมายตั้งแต่ต้น จะไม่มีข้ออ้างว่าพรรคการเมืองทำงานไม่ทันจนต้องขยายเวลาออกไป 90 วันแต่อย่างใด สำหรับกรณีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช อ้างการขยายเวลาดังกล่าวจะช่วยให้พรรคการเมืองทำไพรมารีโหวตทัน เขาเห็นว่าเป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น เพราะหากปล่อยให้พรรคการเมืองทำตามกฎหมายเสียตั้งแต่แรกโดยไม่มีประกาศคำสั่งคสชมาบีบบังคับไว้ การทำไพรมารีโหวตก็จะสามารถทำได้ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าประธานสนช มีฐานะหนึ่งในแม่น้ำ 5 สายของคสช ควรบอกให้หัวหน้าคสช คลายล็อค เพื่อให้พรรคการเมืองทำตามกฎหมายเสียตั้งแต่แรก เมื่อกฎหมายพรรคการเมืองมีผลบังคับใช้จะได้ไม่ต้องหาเหตุผลข้างๆคูๆ ที่ย้อนแย้งกันเองมาเป็นข้ออ้างจนทำให้นายกรัฐมนตรีกลายเป็นตัวตลกในสายตาของนานาชาติ และคนไทยส่วนหนึ่ง ถ้าผู้มีอำนาจทุกฝ่ายทำทุกอย่างตรงไปตรงมาไม่มีวาระซ่อนเร้นก็จะไม่เกิดปัญหาใดๆ ตามมา แต่ถ้ามีวาระซ่อนเร้นก็จะเป็นปมปัญหาเพิ่มขึ้นไม่รู้จบ ทางที่ดีบอกตรงๆ ดีกว่าว่าต้องการอะไร ถ้ามีเหตุผลที่ดีสมเหตุสมผลเชื่อว่าคนจะรับได้ แต่ถ้ายังอ้างเหตุผลข้างๆ คูๆ ก็จะดูไม่จืดไปเรื่อยๆ อย่างแน่นอน นายองอาจกล่าว...
ลิงค์ที่เป็นมิตรเวลาปัจจุบัน:2021-02-26